ปากกระจับเป็นการทำศัลยกรรมผ่าตัดที่เปลี่ยนจากปากบนที่หนาให้ดูเป็นรูปทรงกระจับที่สวยงาม การเปลี่ยนจากปากหนาให้เป็นปากเซ็กซี่ น่าค้นหา ทำให้ใบหน้าดูเปื้อนรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการที่มีรูปปากกระจับนั้นเป็นสิ่งที่สาว ๆ หลายคนปรารถนา ศัลยกรรมปากกระจับจะเหมาะสำหรับคนที่มีปากห้อย ปากหนา ปากที่ดูมีเนื้อเยอะจนเกินไป และศัลยกรรมนี้จะมีข้อห้ามของการทำปากกระจับอะไรบ้างเรามาดูกัน
ทำไมต้องทำปากกระจับ
- เพื่อเป็นการเสริมบุคลิกภาพ สร้างความมั่นใจให้กับตนเอง
- เพื่อทำการแก้ไขริมฝีปากที่ใหญ่หรือหนามาแต่กำเนิด
- เพื่อเป็นการตกแต่งให้ริมฝีปากบนและล่างสมดุลเข้ารูปกัน
ใครบ้างที่เหมาะกับการทำปากกระจับ
การทำปากกระจับนั้นสามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทั้งนี้การทำปากกระจับจะช่วยให้ใบหน้าดูหวานและมีมิติมากขึ้น การทำปากกระจับนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะจะทำ ดังนั้นก่อนที่ท่านจะทำควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ทำการวิเคราะห์ก่อนว่ารูปทรงปากเดิมเหมาะที่จะทำปากกระจับหรือไม่ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าควรใช้การผ่าตัดหรือฉีดฟิลเลอร์ปาก
ข้อห้ามในการทำปากกระจับ
ผู้ป่วยไม่ควรทำปากกระจับ หากกำลังมีภาวะใด ๆ ดังต่อไปนี้
- มีภาวะปากอักเสบอย่างรุนแรง เพราะจะทำให้การผ่าตัดยากขึ้น และอาจต้องผ่าตัดซ้ำหลายครั้งกว่าจะได้ผลการรักษาที่เป็นที่พอใจ
- ภาวะปากบวมใหญ่หลอก (Pseudomacrocheilia) มีอาการคล้ายจะเป็นภาวะปากบวมใหญ่ แต่ไม่ได้ป่วยด้วยภาวะนี้จริง ๆ
- ผู้ที่มีสภาพจิตไม่มั่นคง เพราะการผ่าตัดศัลยกรรมอาจส่งผลกระทบต่อสภาวะทางจิตใจของผู้ป่วยได้
บทความแนะนำ “ดูดไขมัน” โดยแพทย์สอนดูดไขมัน By Rattinan.com
ก่อนทำปากกระจับ
ก่อนที่ท่านจะเข้าทำปากกระจับท่านควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงผลดี ผลเสีย ความเสี่ยง ค่าใช้จ่าย และการพักรักษาตัวหลังการผ่าตัด และท่านควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติทางการแพทย์ การรักษาในปัจจุบัน อาการป่วย การแพ้ยา และโรคประจำตัว เพื่อให้แพทย์สามารถแนะนำและวางแผนการผ่าตัดได้อย่างเหมาะสม
ขั้นตอนการทำปากกระจับ
- แพทย์จะใช้ปากกาวาดเส้นบนริมฝีปากเพื่อทำเครื่องหมายเนื้อส่วนที่ต้องผ่า ซึ่งท่านต้องนอนนิ่ง ๆ
- เมื่อวาดเส้นจนได้รูปร่างปากที่ต้องการแล้ว แพทย์จะทำการฉีดยาชาเฉพาะที่ในบริเวณที่จะทำการผ่าตัด เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดในขณะทำการผ่าตัด โดยผู้ป่วยจะยังรู้สึกตัวในขณะที่ทำการผ่าตัด
- แพทย์จะทำการผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อส่วนด้านในของริมฝีปากออกไป
- หากเนื้อริมฝีปากด้านในมีน้อย แพทย์อาจจะต้องตัดเนื้อริมฝีปากด้านนอกด้วยเพื่อช่วยให้ปากได้รูปตามที่ต้องการ โดยแพทย์จะผ่าแผลเป็นรอยหยักเพื่อให้แผลสมานตัวได้ง่าย รวมทั้งช่วยป้องกันการเกิดรอยแผลเป็น
- ในขั้นตอนนี้ แพทย์จะระวังไม่ให้ผ่าไปโดนเนื้อเยื่อซึ่งเป็นกล้ามเนื้อสำคัญที่ใช้ในการพูดและการเคลื่อนไหวของปาก และรอยแผลผ่าตัดที่เริ่มกรีดห่างจากมุมปากด้านในอย่างน้อย 5 มิลลิเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นที่มุมปาก ซึ่งจะทำให้ปากตีบแคบลง และไม่ให้รอยแผลเป็นกลายเป็นที่สังเกตได้อย่างชัดเจน
- แพทย์จะเย็บปิดแผลให้ได้รูปร่างเป็นปากกระจับ โดยแพทย์จะเย็บปิดแผลด้วยปมที่แน่น เพื่อป้องกันไม่ให้ด้ายหลุด และอาจเย็บแผลเป็นรูปฟันปลาในบางจุดเพื่อตกแต่งแผลและป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นนูนไม่สม่ำเสมอกัน
วิธีดูแลตัวเองหลังทำปากกระจับ
- หลังทำปากกระจับ ปากบาง ควรรับประทานยาให้ครบถ้วน ตรงเวลา ตามแพทย์สั่ง เพราะอาจมีอาการบวมหลังทำ ซึ่งเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้
- ใช้เจลประคบเย็นบริเวณริมฝีปากที่ผ่าตัด ตำแหน่งละ 30 วินาที จึงเปลี่ยนตำแหน่งประคบ ทำวันละ 4 รอบ เช้า กลางวัน เย็น และ ก่อนนอน เป็นเวลา 3 วัน จึงเป็นเปลี่ยนเป็นประคบอุ่น อีก 3 วัน
- ทำความสะอาดแผลโดยใช้สำลีชุบน้ำเกลือ ตำแหน่งบริเวณผ่าตัด อย่างน้อยวันละ 4 ครั้งหรือบ่อยครั้งตามต้องการ และทุก ๆ ครั้งหลังรับประทานอาหาร เพื่อความสะอาดของแผล ก่อนทำแผลต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
- หลังการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ท่านควรงดทาปากด้วยวาสลีน ลิปสติก ลิปมัน ขี้ผึ้ง ทุกประเภท
- หากริมฝีปากแห้งมาก ๆ ให้ใช้สำลีชุบน้ำเกลือทาริมฝีปากแทน หรือใช้สำลีชุบน้ำเกลือแล้วทำการประคบที่ปากเป็นเวลา 5-10 นาทีแล้วเช็ดออก
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเป็นเวลา 1 เดือน
- งดรับประทานอาหารหมักดอง สุกๆ ดิบๆ อาหารทะเล อาหารรสเค็ม
- หลังผ่าตัดห้ามออกกำลังกายหักโหมจนเกินไป อาจไปกระทบกระเทือนถึงแผลได้
- หลังทำการผ่าตัด 7 วัน แพทย์จะนัดตัดไหม
บทสรุป
ก่อนเข้ารับการทำปากกระจับ ท่านจะต้องศึกษารายละเอียดถึงขั้นตอน ข้อห้ามของการทำปากกระจับว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งเมื่อท่านได้ทำการศึกษาจะเป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงในการเข้ารับการทำศัลยกรรม ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันความผิดพลาดและเพื่อเป็นประโยชน์ของตัวท่านเองก่อนตัดสินใจเข้ารับการทำปากกระจับ