ทำปากกระจับ (Bikini Lip Reduction) ปัจจุบันนี้กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นการทำศัลยกรรมความงามด้วยการผ่าตัดตกแต่งลดเนื้อบริเวณริมฝีปากทั้งส่วนบนและล่างให้ได้รูปสวยงามรับกับใบหน้า ด้วยรูปทรงปากโค้งเรียวสวยคล้ายกับผลกระจับ จึงเป็นที่มาที่เรียกว่า ปากกระจับ
โดยแพทย์จะผ่าตัดตกแต่งริมฝีปากบนด้านซ้ายและขวาให้โค้งแหลมคล้ายถ้วยที่คว่ำไว้ และให้ทั้ง 2 ด้านโค้งลงบรรจบกันตรงกลาง ในขณะที่ริมฝีปากล่างจะถูกตัดแต่งเนื้อบางส่วนออกไปให้โค้งคล้ายรูปทรงสามเหลี่ยม หรือทำให้ริมฝีปากล่างบางลงและโค้งได้รูปรับกับริมฝีปากบน
ในการทำรูปปากให้เป็นทรงปากกระจับสามารถใช้วิธีการฉีดสารเติมเต็ม (Filler) เสริมริมฝีปาก (Lip Augmentation) เพื่อให้ริมฝีปากได้รูปอย่างที่ต้องการ ซึ่งที่นิยมใช้ในปัจจุบันเป็นการฉีดสาร Hyaluronic Acid เข้าไปในบริเวณที่ต้องการปรับเปลี่ยนรูปทรงปาก โดยไม่ต้องทำการผ่าตัดศัลยกรรม
ทำไมต้องทำปากกระจับ
- เพื่อเป็นการเสริมบุคลิกภาพ สร้างความมั่นใจในรูปลักษณ์ของบุคคล
- เพื่อเป็นการแก้ไขริมฝีปากที่ใหญ่หรือหนามาแต่กำเนิด
- เพื่อเป็นการตกแต่งให้ริมฝีปากบนและล่างสมดุลเข้ารูปกัน
ผู้ที่ไม่ควรศัลยกรรมปาก
- ผู้ที่มีปากบาง หรือปากเล็กจนเกินไป โดยทั่วไปจะเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ก่อนเบื้องต้นว่าทำได้หรือไม่
- ผู้ที่มีปากเป็นเริม เป็นแผลง่าย ซึ่งจะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย
- คนที่มีรูปทรงปากริมฝีปากขนาดไม่เท่ากัน กรณีแบบนี้อาจทำได้ยากหรือไม่ควรทำเพราะอาจจะทำให้หลังศัลยกรรมนั้นปากของคุณไม่เท่ากัน
- คนที่ยิ้มแล้วเห็นเหงือกมากกว่าคนทั่วไป หากทำแล้วจะทำให้เหงือกมากกว่าเดิม
- อย่างไรก็ดี หากอยากทราบว่าตนเองเหมาะสำหรับการทำปากกระจับหรือไม่ แนะนำให้เข้าปรึกษาแพทย์โดยตรงจะได้รับคำปรึกษาอย่างถูกต้อง
ก่อนทำปากกระจับ
ก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดท่านควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำปากกระจับ โดยสามารถปรึกษากับแพทย์ได้ถึงผลดี ผลเสีย ความเสี่ยง ค่าใช้จ่าย และการพักรักษาตัวหลังการผ่าตัด และผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติทางการแพทย์ การรักษาในปัจจุบัน อาการป่วย การแพ้ยา และโรคประจำตัว เพื่อให้แพทย์สามารถแนะนำและวางแผนการผ่าตัดได้อย่างเหมาะสม
ขั้นตอนการทำปากกระจับ
- ศัลยกรรมปากกระจับ ใช้ระยะเวลาในการผ่าตัด 45 – 60 นาที หรือแล้วแต่ความยากง่ายของแต่ละเคส
- แพทย์จะออกแบบรูปปาก วาดส่วนที่ต้องตัดออกด้วยปากกา
- แพทย์จะทำการฉีดยาชาบริเวณที่จะผ่าตัด
- แพทย์จะใช้มีดกรีดตามรอยที่วาดไว้ และใช้เลเซอร์ร่วมในการผ่าตัดเพื่อลดอาการช้ำ
- แพทย์จะใช้ไหมละลายในการเย็บแผล
- Lip graft คือการนำเนื้อปากที่คุณหมอตัดมาปลูกถ่ายตรงกลางมุมกระจับแล้วเย็บแผลให้ติดกัน ซึ่ง Lip graft จะทำให้ทรงกระจับที่ชัดเจนขึ้น
การเตรียมตัวก่อนทำปากกระจับ
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัดท่านจะต้องทำจิตใจให้สบาย ไม่วิตกกังวลกับการผ่าตัดมากเกินไป ฟังเพลงผ่อนคลาย หางานอดิเรกทำ ลดความตึงเครียด
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัด 2 สัปดาห์ ท่านต้องงดอาหารเสริม วิตามินทุกชนิด
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัดท่านไม่ควรอดอาหาร และควรรับประทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะและให้ครบ 5 หมู่
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัด หากมีโรคประจำตัวหรือแพ้ยา ท่านจะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ท่านต้องงดอาหารเสริม เช่น น้ำมันตับปลา วิตามิน A และ E เพราะตัวยามีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- ก่อนข้ารับการผ่าตัด 2 สัปดาห์ ท่านต้องงดรับประทาน “ยาประเภทแอสไพริน” ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาได้ขณะผ่าตัด เพราะยาชนิดนี้จะทำให้เลือดออกมากกว่าปกติ
วิธีดูแลตัวเองหลังทำปากกระจับ
- หลังทำปากกระจับ ปากบาง ควรรับประทานยาให้ครบถ้วน ตรงเวลา ตามแพทย์สั่ง เพราะอาจมีอาการบวมหลังทำ ซึ่งเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้
- ใช้เจลประคบเย็นบริเวณริมฝีปากที่ผ่าตัด ตำแหน่งละ 30 วินาที จึงเปลี่ยนตำแหน่งประคบ ทำวันละ 4 รอบ เช้า กลางวัน เย็น และ ก่อนนอน เป็นเวลา 3 วัน จึงเป็นเปลี่ยนเป็นประคบอุ่น อีก 3 วัน
- ทำความสะอาดแผลโดยใช้สำลีชุบน้ำเกลือ ตำแหน่งบริเวณผ่าตัด อย่างน้อยวันละ 4 ครั้งหรือบ่อยครั้งตามต้องการ และทุก ๆ ครั้งหลังรับประทานอาหาร เพื่อความสะอาดของแผล ก่อนทำแผลต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
- หลังการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ท่านควรงดทาปากด้วยวาสลีน ลิปสติก ลิปมัน ขี้ผึ้ง ทุกประเภท
- หากริมฝีปากแห้งมาก ๆ ให้ใช้สำลีชุบน้ำเกลือทาริมฝีปากแทน หรือใช้สำลีชุบน้ำเกลือแล้วทำการประคบที่ปากเป็นเวลา 5-10 นาทีแล้วเช็ดออก
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเป็นเวลา 1 เดือน
- งดรับประทานอาหารหมักดอง สุกๆ ดิบๆ อาหารทะเล อาหารรสเค็ม
- หลังผ่าตัดห้ามออกกำลังกายหักโหมจนเกินไป อาจไปกระทบกระเทือนถึงแผลได้
- หลังทำการผ่าตัด 7 วัน แพทย์จะนัดตัดไหม
บทสรุป
สาว ๆ ที่อยากทำปากกระจับ ควรเข้าขอรับคำปรึกษาจากศัลยแพทย์เพื่อให้แพทย์ได้ทำการวิเคราะห์ ว่าควรจะทำออกมาในรูปแบบใด การทำปากกระจับเหมาะกับท่านหรือไม่ ซึ่งท่านจะต้องศึกษาให้ละเอียดทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงก่อนเข้ารับการทำศัลยกรรม