Home เส้นเลือดขอด เส้นเลือดขอดอันตรายไหม

เส้นเลือดขอดอันตรายไหม

0
เส้นเลือดขอดอันตรายไหม

มีหลายคนถามคำถามเข้ามาว่าเส้นเลือดขอดอันตรายไหม ขอตอบเลยว่าไม่อันตรายเท่าไหร่ หากรู้ว่าเป็นและรักษาทันไม่ปล่อยให้เรื้อรัง แต่หากปล่อยไว้ไม่รักษาก็เป็นอันตรายได้เช่นกัน โดยรวมแล้วหากรู้ว่าเป็นแต่รักษาทันก็ไม่เป็นอันตราย ทางที่ดีหากรู้ว่าเป็นเส้นเลือดขอดรีบมารักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเส้นเลือดขอดโดยตรง เพราะแพทย์จะได้แนะนำวิธีดูแลตัวเองเมื่ออยู่ที่บ้าน เพราะเส้นเลือดขอดสามารถดูแลตัวเองได้หากเป็นไม่มากหรือเรื้อรังนั่นเอง ทางที่ดีรู้ว่าเป็นเส้นเลือดขอดแล้วรีบรักษาไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน

อาการของเส้นเลือดขอดเป็นอย่างไร

เส้นเลือดขอดจะไม่มีอาการใด ๆ แสดงให้เห็น แต่สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองดังนี้

  • เส้นเลือดจะคดเคี้ยวและนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด
  • เส้นเลือดจะไม่เป็นสีเขียวแต่จะกลายเป็นสีม่วงหรือสีฟ้าแทน
  • ปวดกล้ามเนื้อ ยกขาไม่ขึ้น หรือไม่มีแรง
  • มีอาการบวมและร้อนออกขาส่วนล่าง
  • ปวดเมื่อต้องยืนหรือนั่งเป็นเวลานาน ๆ
  • มีเลือดออกมาจากเส้นเลือดขอด
  • มีผิวหนังอักเสบและมีอาการพุพองบริเวณผิวหนังใกล้กับข้อเท้า

ความรุนแรงของเส้นเลือดขอด

ความรุนแรงของเส้นเลือดขอดสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับดังนี้

  1. เส้นเลือดขอดแบบฝอย (Spider Veins)

เป็นเส้นเลือดขอดที่สามารถมองเห็นได้ง่ายและอยู่ตื้นมาก จะเป็นเส้นเล็ก ๆ คล้ายใยแมงมุมมีขนาดเล็กสีม่วง หรือแดง เป็นเส้นเลือดขอดที่มีความรุนแรงน้อยที่สุด บางรายแทบไม่มีอาการเจ็บ ปวด หรือเมื่อยล้าบริเวณที่เป็น

  1. เส้นเลือดขอดขนาดกลาง (Reticular veins)

ลักษณะของเส้นเลือดขอดขนาดกลางจะมีเส้นเลือดโป่งพองออกมาไม่มาก แต่ก็สามารถสังเกตเห็นได้ชัด

  1. เส้นเลือดขอดโป่งพองขนาดใหญ่ (Varicose Veins)

เป็นเส้นเลือดที่มีรอยหยักและขดมีสีเขียวผสมสีม่วง ซึ่งสามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน เพราะจะนูนขึ้นมาเป็นขด ๆ และเส้นเลือดขอดโป่งพองขนาดใหญ่จะมีอาการเมื่อยล้า เจ็บปวดบริเวณเส้นเลือดขอด ซึ่งถือว่าอยู่ในขั้นที่ต้องรักษา เพราะเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นตามมาได้

การรักษาเส้นเลือดขอด

หากใครที่เป็นเส้นเลือดขอดแต่ไม่มีอาการเจ็บปวดก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรักษา แต่สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการเส้นเลือดขอดก็ไม่ต้องรักษาเพราะอาการเส้นเลือดขอดที่เป็นอยู่จะค่อย ๆ ทุเลาลงเองภายใน  3-12 เดือนหลังจากการคลอดบุตรแล้ว และสำหรับผู้ป่วยเส้นเลือดขอดอาจป้องกันไม่ให้มีเส้นเลือดขอดเพิ่มขึ้นด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ดังต่อไปนี้

  • พยายามเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลา และหมั่นออกกำลังทุกวัน เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในขา
  • ควบคุมน้ำหนักของตัวเองให้อยู่ในเกณฑ์ โดยการรับประทานอาหารให้พอดีในแต่ละมื้อ และควรรับประทานอาหารที่มีเกลือแต่น้อยเพื่อป้องกันอาการบวมจากการคั่งของน้ำได้
  • อย่าใส่รองเท้าส้นสูง และไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่รัดรอบเอวเพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนไม่ปกติ
  • ยกขาขึ้นเหนือระดับหัวใจบ่อย ๆ หรือยกขาสูงเพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น หรือนอนวางขาบนหมอน 3-4 ใบ เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้อย่างปกติ
  • ไม่ควรนั่งหรือยืนเป็นเวลานาน ๆ ควรเป็นท่าบ่อย ๆ เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
  • ไม่ควรนั่งทับขาเป็นเวลานาน ๆ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนไม่เป็นปกติ

และนี้เป็นการรักษาเบื้องต้นสำหรับผู้ป่วยเส้นเลือดขอดที่สามารถทำได้เองที่บ้าน และสำคัญควรสวมถุงน่องสำหรับการรักษาเส้นเลือดขอดทุกครั้งเพื่อช่วยบีบไล่ให้หลอดเลือดและกล้ามเนื้อขาพาเลือดเคลื่อนตัวกลับสู่หัวใจได้ดียิ่งขึ้น

อาหารที่ผู้ป่วยเส้นเลือดขอดควรรับประทาน

อาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์

ผู้ป่วยที่รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์จะช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง นอกจากนี้ยังป้องกันท้องผูกและท้องอืด ที่จะส่งผลให้ความดันโลหิตสูงและเส้นเลือดบริเวณช่องท้องและขาต้องทำงานหนัก ควรรับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืชเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารทุกวัน หลีกเลี่ยงการทานแป้งขัดขาว ข้าวขาว แล้วหันมาทานข้าวกล้องหรือขนมปังโฮลวีตที่มีไฟเบอร์สูงกว่า โดยเฉพาะข้าวสาลีที่อุดมไปด้วยรูตินซึ่งมีคุณสมบัติบำรุงเส้นเลือด

อาหารที่มีรูตินสูง

อาหารที่มีรูตินสูงช่วยเพิ่มความแข็งแรงและยืดหยุ่นให้กับเส้นเลือดและเส้นเลือดฝอย ป้องกันการเสื่อมของเส้นเลือดจากการทำลายของอนุมูลอิสระ และบรรเทาอาการอักเสบ อาหารที่อุดมไปด้วยรูตินก็อย่างเช่น แอปเปิล (โดยเฉพาะส่วนเปลือก) องุ่น พีช ชาเขียว มะเขือเทศสด

อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามี ซี และ อี

การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีและอี ช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือด โดยเฉพาะวิตามิน อี ที่ช่วยคืนความยืดหยุ่นให้ผนังเส้นเลือด นอกจากนี้ วิตามิน ซี ยังช่วยรักษาปัญหาผิวที่เกิดขึ้นจากเส้นเลือดขอด เช่น รอยช้ำ คล้ำ แตกลาย แผลเป็น เลือกรับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว ฝรั่ง มะเขือป้อม ส้ม และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

สมุนไพรที่สามารถรักษาเส้นเลือดขอด

สมุนไพรที่สามารถรักษาเส้นเลือดขอดและเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นเลือด และเป็นสมุนไพรที่สามารถหาได้ง่าย ๆ ตามบ้าน และสมุนไพรที่สามารถรักษาโรคเส้นเลือดขอดได้มีดังนี้

  1. ใบบัวบก ใบแปะก๊วย

มีสารไตรเตอพีนอยด์ (Triterpenoid) สามารถคั้นดื่มเป็นน้ำ หรือทานสดแกล้มกับมื้ออาหารได้เพราะใบบัวบก และใบแปะก๊วยสามารถสร้างความแข็งให้ผนังหลอดเลือดและลดเลือดคั่ง

  1. พริก

อุดมไปด้วยวิตามี ซี และฟลาโวนอยด์ สามารถป้องกันความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ และสามารถช่วยซ่อมแซมผนังเลือด และผลิตคอลลาเจนเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผนังเส้นเลือด

  1. ผักชี

ผักชีมีรูตินและวิตามิน ซี สูงมาก หาง่าย และสามารถรับประทานได้กับอาหารไทยทุกเมนู

อาหารที่คนเป็นเส้นเลือดขอดไม่ควรรับประทานหรือควรหลีกเลี่ยง

  1. แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ

เครื่องดื่มเหล่านี้ยับยั้งการดูดซึมออกซิเจนของเลือด ทำให้เส้นเลือดต้องทำงานหนักมากกว่าเดิม

  1. น้ำตาลและเกลือ

ทำให้เลือดข้นและเกิดภาวะขาดน้ำ นอกจากนี้น้ำตาลยังถูกเก็บสะสมเป็นเซลล์ไขมัน ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม เสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดขอดมากกว่าเดิม

  1. แป้งขาว ข้าวขัดสี

ไม่มีไฟเบอร์และทำให้ท้องผูก ทำให้ความดันโลหิตในช่องท้องสูงอยู่ตลอดเวลา เส้นเลือดที่ขาต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อส่งเลือดกลับหัวใจ

เส้นเลือดขอดอันตรายไหม หากเป็นและรู้จักดูแลตัวเองและรีบรักษาอย่างถูกวิธีการเป็นเส้นเลือดขอดก็ไม่ได้อันตรายอย่างที่ทุกคนคิด

About Author