
การทำศัลยกรรมผ่าตัดไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดเล็ก ผ่าตัดใหญ่ หลังจากที่ทำการศัลยกรรม จะเกิดบาดแผลของรอยผ่าตัด และรอยเย็บต่าง ๆ ซึ่งการทำศัลยกรรมปากกระจับนี้ก็เช่นเดียวกัน หลังการผ่าตัดก็ต้องดูแลรักษา ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในเรื่องวิธีดูแลหลังทำปากกระจับอย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
ผู้ที่เหมาะทำปากกระจับ ศัลยกรรมปาก
- คนที่มีริมฝีปากบนที่หนาไม่สวยงาม ไม่ได้รูป ไม่เห็นขอบปาก
- คนที่ริมฝีปากบนไม่มีความหยักโค้ง และต้องการตกแต่งสร้างจะงอยปากเพิ่มความสวยงาม
- สาว ๆ ที่ไม่มีขอบปาก และต้องการสร้างขอบปากชัดเจนเพื่อทาลิปสติกแล้วเห็นรูปทรงปากสวยงาม
- คนที่ริมฝีปากล่างหนา หรือห้อยแล้วต้องการศัลยกรรมปากล่างเป็นทรงหัวใจ HEART LIP
- คนที่ริมฝีปากบางและต้องการเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปากมีเสน่ห์
- ช่วยแก้ไขในคนที่มีลักษณะริมฝีปากผิดรูปได้
ข้อควรรู้ก่อนทำปากกระจับ ศัลยกรรมปาก
- ก่อนตัดสินใจทำปากกระจับ ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด โดยสามารถปรึกษากับแพทย์ถึงผลดี ผลเสีย ความเสี่ยง และผลลัพธ์ที่คาดหวังหลังการรักษา
- เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญ เพราะถ้าหากแพทย์ประเมินการรักษาไม่เหมาะสมอาจทำให้ทรงปากไม่เป็นธรรมชาติ ปากเสียรูปทรง หรือผลหลังการรักษากลายเป็นคนยิ้มเห็นเหงือก และแก้ไขยาก
- เลือกคลินิกที่มีชื่อเสียงและเปิดให้บริการมายาวนาน รวมถึงสถานที่ให้บริการสะอาด เครื่องมือรักษามีความทันสมัย
- ในกรณีต้องการฉีดสารเติมเต็มให้ปากอวบอิ่ม ไม่ควรทำกับหมอกระเป๋าเพราะมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะติดเชื้อ หรือปากผิดรูปทรงได้
ผลลัพธ์หลังการรักษา
ในช่วงระยะเวลา 1 สัปดาห์แรก แผลจะมีอาการบวมแล้วจะค่อย ๆ ยุบลงเรื่อย ๆ หลังจากนั้น ประมาณ 2 สัปดาห์ ริมฝีปากของคุณจะบางลง เป็นทรงกระจับดูสวยงาม
การดูแลตนเองหลังผ่าตัด
- ประคบเย็นทันทีรอบปากหลังการผ่าตัดเป็นเวลา 48 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง โดยอุปกรณ์ที่ใช้ประคบเย็นควรเป็นวัสดุน้ำหนักเบาเช่น ใช้ผ้าขนหนูที่เปียกหมาด ๆ สัก 3 ผืนแช่ช่องแข็งและสลับนำมาประคบให้ต่อเนื่องที่สุด โดยประคบช่วงแก้ม หลีกเลี่ยงการประคบตรงจุดที่เป็นรอยเย็บ หากพ้นระยะ 48 ชั่วโมงแล้วให้ปล่อยไว้เฉย ๆ ไม่ควรประคบร้อนหรือเย็นทั้งสิ้นเพราะอาการบวมจะมีต่อไปอีกประมาณ 4-5 วัน
- การนอนให้ยกหัวสูงหรือนั่งหลับ 48 ชั่วโมง เพื่อลดอาการบวมอย่างมากช่วง 3-7 วันแรกเป็นอาการปกติ ไม่ต้องกังวลเรื่องรูปทรงปากเพราะช่วงแรกปากจะบวมมากและบวมไม่เท่ากัน การเข้าที่ของอาการบวมอาจใช้เวลา 2-3 เดือน ดังนั้นไม่ควรวิตกกังวล
- ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารร้อน อาหารหมักดอง สุกๆ ดิบๆ อาหารจำพวกหมักดอง โดยเฉพาะส้มตำปลาร้า ผลไม้ดอง เป็นต้น อาหารทะเล ให้งดอาหารทะเล
- ควรทานคำเล็กเพื่อเศษอาหารจะไม่ติดที่ไหม ส่วนการทำความสะอาด สามารถแปรงฟันได้ และใช้น้ำยาบ้วนปากที่ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรือน้ำเกลือผสมน้ำยาบ้วนปากที่เจือจาง ตามด้วยการบ้วนน้ำเกลือเปล่าๆอีกครั้ง วันละหลายๆรอบเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของปาก หากมีเศษอาหารติดตามไหมสามารถใช้ syringe สูบน้ำเกลือฉีดได้ และควรเปลี่ยน syringe วันละครั้ง
- หลังจากรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งจนหมดแล้วไม่ต้องซื้อรับประทานเองเพิ่ม ให้ทานได้เฉพาะยาแก้ปวดพาราเซตามอนเท่านั้น ในกรณีมีอาการคลื่นไส้อาเจียนมักมีสาเหตุมาจากอาการข้างเคียงจากการทานยาแก้อักเสบ Cloxacilline ให้หยุดยา หรือใช้ Amoxicilline 500mg หลังอาหาร 1 เม็ด 4 เวลา(เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน) ทานยาต่อเนื่องทั้งหมด 7 วันและสามารถทานยาแก้คลื่นไส้อาเจียนได้(Domperidone)
ผลข้างเคียงหลังการทำศัลยกรรมปากกระจับ
- ในช่วงสัปดาห์แรก ปากจะมีการบวมและตึงมาก โดยบวมมากที่สุดในวันที่ 3 หลังผ่าตัด จากนั้นจะค่อย ๆ ลดบวมลงไป จนกว่าจะถึงเดือนที่ 3
- มีอาการชาที่ปาก การรับรู้และความรู้สึกที่ปากขาดหายไปบางส่วน ใช้เวลา 6 เดือน ถึง 1 ปีในการกลับมาเป็นปกติ
- มีไตเนื้อแข็ง ๆ เกิดขึ้นที่ริมฝีปาก เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทุกเคส มักเกิดขึ้นหลังการตัดไหม ใช้เวลา 3 ถึง 6 เดือนในการกลับมาเป็นปกติ
- เสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นคีลอยด์
- ประกบปากไม่สนิทในช่วงแรก รู้สึกแปลก ๆ ที่ปาก บังคับริมฝีปากลำบาก