
การทำปากกระจับเป็นเรื่องของการผ่าตัดศัลยกรรม ที่ก่อนทำต้องศึกษาข้อมูลให้ดี และเลือกคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เพราะการทำศัลยกรรมปากเป็นการตัดแต่งเนื้อปากให้ได้รูปทรงที่ดูสวยงาม ตามแบบที่เราต้องการ หากเกิดทำพลาดขึ้นมา หรือหมอที่ทำให้ไม่มีความเชี่ยวชาญก็ค่อนข้างที่จะแก้ไขได้ยากเพราะเนื้อที่ตัดออกไปแล้วจะให้กลับมาเต็มดังเดิมเหมือนก่อนทำคงเป็นไปไม่ได้
ดังนั้นต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ศัลยกรรมเฉพาะที่มีประสบการณ์ ส่วนทำปากกระจับราคาเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของลักษณะรูปปากเดิม รวมถึงความชำนาญของแพทย์ หากเป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียง ประสบการณ์มาก ราคาก็จะสูงขึ้นตามลำดับ รวมถึงสถานที่รับบริการ คลินิก และโรงพยาบาลมีค่ารักษาค่าบริการ ค่าเวชภัณฑ์ ต่างกัน โดยเฉลี่ยเริ่มต้นที่ประมาณ 15,000 บาท ไปจนถึง 40,000 บาท
สำหรับใครที่กำลังอยากทำปากกระจับรวมถึงแก้ปัญหาปากอื่น ๆ ต้องเลือกให้ดี อย่ารีบร้อนด่วนตัดสินใจ ควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีเสียก่อน โดยสามารถพิจารณาเลือกคลินิกดังต่อไปนี้
- เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีใบอนุญาตชัดเจน สถานที่ให้บริการสะอาด มีมาตรฐาน อุปกรณ์และเครื่องมือผ่าตัดมีความทันสมัย สะอาดปลอดเชื้อ
- แพทย์ที่ทำการผ่าตัดควรมีประสบการณ์และชำนาญมากพอ ในด้านการทำปากกระจับว่ามีผลลัพธ์เป็นอย่างไร สามารถหาดูได้จากรีวิวเคสก่อน ๆ ที่แพทย์ท่านนั้นทำ เพราะสามารถช่วยให้เราตัดสินใจได้
- ควรเลือกคลินิกที่ปรึกษาแพทย์ได้โดยตรงก่อนตัดสินใจผ่าตัด เพื่อประเมินแผนการรักษา ให้ข้อมูลตรงไปตรงมา แจ้ง ผลลัพธ์ที่คาดหวัง ผลดี ผลเสีย ความเสี่ยง หลังการรักษาชัดเจน รวมถึงราคาค่ารักษาชัดเจน
- มีรีวิวจริงจากคนไข้ที่เคยใช้บริการ ทั้งรูปก่อนทำ และหลังทำ
- มีการดูแลหลังรักษา ติดตามผลติดตามผลตลอดการรักษาจนแผลหายดี
การทำปากกระจับเพื่อ
- เสริมบุคลิกภาพ สร้างความมั่นใจในรูปลักษณ์ของบุคคล
- แก้ไขริมฝีปากที่ใหญ่หรือหนามาแต่กำเนิด
- ตกแต่งให้ริมฝีปากบนและล่างสมดุลเข้ารูปกัน
- รักษาผู้ป่วยภาวะปากบวมใหญ่ (Macrocheilia) ที่มีริมฝีปากผิดรูปไป
ข้อห้ามในการทำปากกระจับ
- ผู้ที่มีปัญหาด้านโครงสร้างฟัน เช่น ฟันห่าง ฟันยื่น ฟันไม่สบกับสนิท หรือภาวะฟันล่างครอบฟันบน ซึ่งหมอแนะนำให้พบทันตแพทย์เพื่อประเมินก่อน
- คนที่จัดฟันอยู่ หากฟันยังไม่เข้าที่ ฟันห่างหรือโครงฟันยังยื่นอยู่ หมอจะยังไม่ทำศัลยกรรมปากให้จนกว่าฟันจะเข้าที่ โดยหากฟันเข้าแล้วในขณะใส่เหล็กดัดหรือ Retainer ก็สามารถทำได้
- ผู้ที่มีปัญหายิ้มเห็นเหงือกมาก หมายถึงยิ้มในท่าปกติริมฝีปากก็ร่นขึ้นเหนือขอบฟันมาก ซึ่งกรณีเช่นนี้หมอจะแนะนำให้พบและปรึกษาแพทย์ด้านทันตกรรมยิ้มเห็นเหงือก ซึ่งหมอแนะนำแก้ปัญหายิ้มเหงือกก่อนให้เสร็จเรียบร้อยประมาณ 1-2 เดือน จึงค่อยมาผ่าตัดริมฝีปาก
- ผู้ที่มีริมฝีปากบางมาก เพราะวิธีการทำปากให้เป็นรูปทรง คุณหมอต้องตัดเนื้อริมฝีปากออกบางส่วน แล้วเย็บตกแต่ง ซึ่งหากริมฝีปากบางมากแล้วก็ไม่สามารถทำให้เป็นรูปทรงได้
- ผู้ที่มีริมฝีปากคว่ำมากหรือมุมปากตกมาก จนไม่สามารถแก้ไขได้โดยการผ่าตัดหรือตกแต่ง
- ผู้ที่มีริมฝีปาก 2 ข้าง ไม่สมมาตรกันเมื่อวัดจากจุดกึ่งกลางปาก หรือในผู้ที่มีปัญหายิ้มไม่เท่ากัน 2 ข้าง ซึ่งอาจทำให้รูปทรงผิดรูปไปได้
- ผู้ที่มีปัญหาแผลเป็นนูนหรือคีรอยด์
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดศัลยกรรมปาก
- งดยาแก้ปวดกลุ่ม Aspirin 7 – 10 วันก่อนผ่าตัดและสมุนไพรบางชนิด เช่น อีฟนิ่งพริมโรส ยาวิตามินอีปริมาณสูง ๆ
- ทานอาหารให้อิ่มก่อนผ่าตัด
- ควรแปรงฟันก่อนมาผ่าตัด เนื่องจากหลังผ่าตัดอาจปวดแผล ทำให้แปรงฟันไม่สะดวก
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
- เสี่ยงต่อการเกิดแผลติดเชื้อและมีเลือดออก
- บริเวณที่ผ่าตัดจะไวต่อสัมผัส ทำให้เกิดความเจ็บปวดได้ง่ายเมื่อถูกกระทบกระเทือน
- อาจมีรอยแผลเป็นนูนบริเวณแผลผ่าตัด
- อาจเกิดความไม่สมมาตร ไม่ได้สัดส่วนที่สมดุลกัน ทั้งระหว่างริมฝีปากบนกับล่าง หรือริมฝีปากกับใบหน้า
- เกิดถุงน้ำในช่องปากหรือต่อมน้ำลายอุดตัน (Mucocele) ซึ่งมีโอกาสพบได้น้อยมาก
การดูแลหลังทำศัลยกรรมปากกระจับ
- ให้ประคบเย็น 3 วันแรกให้มากที่สุด
- ประคบอุ่นในวันที่ 4 ไปจนกว่าจะถึงกำหนดตัดไหม
งดทานอาหารแสลงจนกว่าแผลจะหาย จนรูปปากเข้าที่ - บ้วนปากทุกครั้งหลังทานอาหาร ( น้ำเกลือผสมน้ำยาบ้วนปากได้)
- นอนหมอนสูงในช่วงเวลา 3 วันแรก จากนั้นนอนหมอราบหน้าตรง
- งดแปรงฟัน 3 วันแรก ใช้น้ำเกลือบ้วนปากอย่างเดียว วันที่ 4 เป็นต้นไปถึงวันตัดไหม แปรงฟันได้โดยใช้แปรงสีฟันเด็ก ยาสีฟันเด็กเราใช้หลอดดูดน้ำทุกชนิด เพื่อไม่ให้แผลโดนน้ำ ลดโอกาสติดเชื้อ