ปากกระจับ ถือได้ว่าเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ใครเห็นใครก็ชอบ แถมเวลาถ่ายรูปออกมา ไม่ว่ามุมไหนก็สวยละมุน ทำให้หลาย ๆ คนอยากทำปากกระจับบ้าง แต่ติดที่กลัวการผ่าตัด กลัวว่าทำออกมาแล้ว ไม่ได้ตามรูป ดังนั้นเราจึงมีวิธีทำปากกระจับด้วยตัวเอง แบบง่าย ๆ มาฝากกันค่ะ
การทำปากกระจับด้วยตัวเอง
วิธีที่ 1.
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ ดินสอเขียนขอบปาก ลิปสติก กระจก
เทคนิคง่าย ๆ ในการสร้างปากกระจับก็คือ วาดขอบปากให้ดูกระจับที่สุดเท่าที่เราต้องการ โดยจะมีเทคนิคที่พิเศษขึ้นมาในการวาดปากกระจับให้ได้สวยดังใจ นั่นก็คือการ วาดรูปกากบาท บริเวณมุมปากบนทั้งสองข้าง เพื่อสร้างองศาของปากกระจับให้สวยตามที่เราต้องการ จากนั้นก็วาดขอบปากล่างต่อ และทำการมาร์คมุมปากรอบๆ เพื่อกรีดเส้นร่างโครงของขอบปากให้สวยงามและดูกระจับที่สุดเท่าที่จะทำได้ พอได้โครงร่างปากที่สวยงามแล้ว ค่อยลงสีลิปสติกทับด้านใน ง่าย ๆ เพียงแค่นี้ ก็ตามปากกระจับที่สวยงาม
วิธีที่ 2 .
อุปกรณ์ที่ใช้
อายไลเนอร์ หรือดินสอเขียนขอบปาก สีน้ำตาล
ดินสอเขียนขอบปาก สีเดียวกับปาก
ลิปกลอสใส
แป้งฝุ่นโปร่งแสง
คอนซีลเลอร์
อายไลเนอร์สีขาว
- ทำความสะอาดริมฝีปากให้เรียบร้อย โดยไม่ต้องทาลิปมัน แล้วแตะคอนซีลเลอร์เพื่อให้ขอบปากดูจางลง
- จากนั้นใช้อายไลเนอร์สีน้ำตาลวาดขอบปาก เติมมุมปากให้เชิดขึ้นเหมือนอมยิ้มนิด ๆ พอได้รูปปากที่ต้องการแล้วให้แตะแป้งฝุ่นลงไปช่วยเซต
- แรเงาริมฝีปากส่วนเกินด้านในให้เป็นรูปกระจับ ใช้ดินสอเขียนขอบปากสีเดียวกับปาก ระบายให้ทั่วริมฝีปาก แล้วเบลนด์ให้กลืนกับสีขอบปากที่วาดไว้
- เติมอายไลเนอร์สีขาวเพื่อไฮไลท์ตรงกระจับปากด้านบน ให้ดูมีมิติ แล้วแตะแป้งฝุ่นช่วยเซตสีปากอีกครั้ง
- ทาลิปกลอสบาง ๆ พยายามอย่าให้โดนจุดที่ระบายสีเข้มเอาไว้ จะได้ไม่หลุดออกง่าย แค่นี้ ก็ได้ปากกระจับแบบไม่ต้องศัลยกรรมแล้ว
เทคนิคการแก้ปากห้อยโดยไม่ต้องศัลยกรรม
1 .กลบขอบปาก โดยการใช้คอนซีลเลอร์กลบขอบปากให้มิด หลังจากนั้นทาลิปสติกเพียงแค่ด้านใน วิธีนี้จะช่วยให้ปากของสาวๆ ดูเล็กลง
2 .ทาลิปแบบ OMBRE’ โดยการทาลิปสติกสีเข้มด้านใน สีอ่อนด้านนอก หรือเลือกทาลิปสติกเฉพาะด้านใน วิธีนี้จะช่วยให้ปากของเราดูมีมิติ ระเรื่อๆมากยิ่งขึ้น
- 3. วาดขอบปากให้เล็กลง โดยการใช้แปรงวาดขอบปากทั้งบนและล่างให้เล็กลง วิธีนี้ช่วยให้ปากเล็กของสาวๆ ได้รูป และเป็นทรงกระจับมากขึ้น
4 .บริหารปากให้เป็นกระจับ โดยการพองลมในปาก 5 วินาที แล้วไล่ลมไปทางซ้าย 5 วินาที, ขวา 5 วินาที และทำปากจู๋อีก 10 วินาที
และอีกวิธีหนึ่งในการทำปากกระจับโดนไม่ต้องผ่าตัด นั่นก็คือการฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีด ฟิลเลอร์ปาก เป็นการใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ “HA” เพื่อช่วยเติมเต็มหรือเสริมให้ริมฝีปากกลับมาดูอวบอิ่ม เต่งตึง ชุ่มชื้นขึ้น ทำให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น เมื่อเทียบกับการแก้ไขรูปปากโดยการผ่าตัดที่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน ต้องคอยรักษาแผล และมีความเสี่ยงอีกหลายอย่าง การผ่าตัดเมื่อมีความผิดพลาดก็แก้ไขได้ยาก การฉีด ฟิลเลอร์ปาก จึงเป็นทางเลือกที่สะดวก เจ็บน้อยและปลอดภัยมากกว่า
สิ่งที่ควรพิจารณาในการฉีด ฟิลเลอร์ปาก เพื่อออกแบบรูปทรงให้เข้ากับใบหน้า ดูว่าปากมีความสมมาตรหรือไม่ ถ้าปากเบี้ยว มุมปากตก ปากไม่เท่ากัน สามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ปากมีความสมส่วน สมดุลได้รูปมากขึ้น ต่อมาจะดูในเรื่องสัดส่วนระหว่างริมผีปากบนและล่าง โดยทั่วไปสัดส่วนสวยงามที่สุดของริมฝีปาก คือ ริมฝีปากบนจะต้องหนาประมาณ 1 ส่วน ริมฝีปากล่างจะเป็น 1.6-1.8 ส่วน ขึ้นกับความยาวคางส่วนปลายของแต่ละคนด้วย
วิธีฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ แพทย์จะประเมินใบหน้าและวางแผน สำหรับการฉีด ฟิลเลอร์ปาก โดยจะดูลักษณะของใบหน้าและปัญหาผิว รวมถึงตรวจดูบริเวณที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อแก้ไขปัญหาบนใบหน้า จะมีการทำเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ แต่ละจุดบนใบหน้า รวมถึงมีการถ่ายภาพใบหน้า บริเวณที่จะทำการรักษาด้วยการฉีด ฟิลเลอร์ปาก เพื่อวัดผลการเปลี่ยนแปลงภายหลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์
เมื่อได้ทำการประเมินใบหน้าไปเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนของการฉีดฟิลเลอร์ จะใช้เวลาในการฉีดแต่ละเข็มเพียงไม่นาน แพทย์จะทำการนวดและประเมินผลการตรวจไปพร้อม ๆ กับการฉีดฟิลเลอร์ หรืออาจมีการเพิ่มปริมาณของฟิลเลอร์ตามที่แพทย์เห็นสมควร หลังทำการฉีด ฟิลเลอร์ปาก เรียบร้อย แพทย์จะทำการนัดตรวจอีกครั้ง ในช่วง 2 สัปดาห์
หลังฉีด ฟิลเลอร์ปาก ดูแลตัวเองอย่างไร
หลังฉีด ฟิลเลอร์ปาก ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก ไม่ควรออกกำลังกายให้เหงื่อออกมาก หรือไปทำงานตากแดดร้อน ๆ เพราะอาจทำให้เกิดรอยแดงชัดเจนมากขึ้นบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- ทันทีไม่ควรจับ ลูบคลำ นวด หรือปั้นเอง ในบริเวณที่ฉีดรักษาบ่อย ๆ เพราะอาจมีผลต่อการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยาไปยังตำแหน่งที่ไม่ต้องการได้
- ควรดื่มน้ำในปริมาณที่มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 4 วันแรก ของหลังฉีดฟิลเลอร์ ประมาณ 3 ลิตรต่อวัน เพราะ ไฮยารูลอนิกแอซิด ฟิลเลอร์ เป็นสารอุ้มน้ำ การดื่มน้ำปริมาณมาก ๆ จะทำให้ฟิลเลอร์ ที่ทำการเติมเต็มเข้าไปนั้นอยู่ได้นานยิ่งขึ้น และช่วยให้น้ำจับกับโมเลกุล ของฟิลเลอร์ที่ฉีด ส่งผลให้ผิวดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- งดการรับประทานยาหรือวิตามินที่ทำให้เลือดออก เช่น แอสไพริน Vitamin E ใบแป๊ะก๊วย น้ำมันปลา
- ภายใน 2 สัปดาห์แรก ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ งดการเข้าอบไอน้ำ อบซาวน่า ทำเลเซอร์ ทำ RF หรือ Ionto เพราะความร้อนเฉพาะจุดเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อฟิลเลอร์ได้ใน 2 สัปดาห์แรก
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ของหมักดอง อาหารแสลงทุกชนิด